Archives

1

การหาแนวโน้มโดยใช้ Trendline

9Professionaltrader วันเสาร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2553
การหาแนวโน้มโดยการใช้ TrendlLine
แนวโน้มขาลง
1.ลากเทรนไลน์เพื่อหาแนวโน้มขาลง 1 เส้น

2.จากนั้น Double Click ที่เส้น Trendline เพื่อให้เกิดจุด แล้ว กด Ctrl พร้อมกับดึงเทรนไลน์ลงมาตามจุดต่ำสุดดังรูป เพียงเท่านั้นเราก็จะได้เส้นแนวโน้มขาลง และได้ Channel Trend ขาลงแล้วครับ

แนวโน้มขาขึ้นก็ทำเหมือนกัน ลากหาเส้นแนวโน้มขาขึ้นก่อน แล้วลากเทรนไลน์ขนาน จะได้ดังรูป

หรือ
Read More>>
0

สมาชิก 9professionaltrader รายงานตัวที่ thaiforexschool.com กันด้วยนะครับ

9Professionaltrader วันอังคารที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2553
สวัสดีครับเพื่อนๆ 9professionaltrader

ผมได้จัดทำเว็บบอร์ดให้กับสมาชิกทุกคนได้แลกเปลี่ยนความรู้กันนะครับ พวกเราไปแลกเปลี่ยนความรู้กันที่ http://www.thaiforexschool.com กันนะครับ

บทวิเคราะห์กราฟจะอยู่ที่ www.thaiforexschool.com นะครับ
Read More>>
1

EUR/USD Elliott Wave Analysis

9Professionaltrader วันอาทิตย์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2553 , ,
วันจันทร์
วิเคราะห์แนวโน้มของอียูระยะยาว คำอธิบายดูตามรูปเลยนะครับ
เลื่อนลงไปข้างล่าง ดูแนวโน้มของแต่ละวันเลยนะครับ ดูแบบระเอียด เข้าไปดูที่ http://www.thaiforexschool.com


วันอังคาร



ช่วงเช้านี้ราคาปรับตัวลงมาที่ ระหว่าง Fibonacci 61.8-50.0% ดังรููป ถ้าราคาไม่สามารถผ่านแนวรับนี้ได้ ราคาจะขึ้นไปที่ จุดที่ 3 
รอ Histogram ของ Macd ตัด Zero line ขึ้นไปอีกครั้ง

Tuesday 13.20



Wednesday 

วันพุธ

วันพฤหัสบดี

Read More>>
6

วิเคราะห์แนวโน้มของอียู ประจำวันที่ 11-15 ตุลาคม 2553

9Professionaltrader วันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2553
วันศุกร์
แนวต้านอยู่ที่ Fibonacci 61.8-38.2% ถ้าไม่ผ่านจะวิ่งตามลูกศรที่ผมได้ลากไว้
ถ้าผ่านได้ขึ้นไปทดสอบ High เมื่อวานอีกครั้ง

วันพุธ
วันนี้ให้ดูที่ เส้น Resistance Trendline และ High ที่ 1.4008 และ 1.4028 ถ้าขึ้นไปทดสอบแล้วไม่ผ่าน ให้ Sell ทันที

วันอังคาร
อียูได้กลับไปทดสอบจุดสูงสุดของวันศุกร์อีกครั้งและไม่สามารถดีดตัวขึ้นไปได้ จึงกลับตัวลงมาตั้งแต่เมื่อคืนนี้ และเช้านี้ลงมาทดสอบจุดต่ำสุดที่่ 1.3844 ราคาได้ดีดตัวขึ้นมาปรับฐานเล็กน้อย
คำแนะนำในวันนี้
แนวต้านอยู่ที่ เส้น EMA 50 100 200 กราฟ 30 นาที - 1 ชั่วโมง
และ ระดับ Fibonacci 38.2-61.8%
 แนวรับอยู่ที่ จุดต่ำสุดเก่าของวันศุกร์ 1.3833 ถ้าผ่านได้จะทะลุลงไปที่ระดับ Fibonacci 161.8 %


สำหรับสมาชิก 9professionaltrader สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaiforexschool.com
วันจันทร์
During the past week, the European Central Bank maintained its stance of withdrawing policy stimulus from the European financial system at its meeting that concluded on Thursday, unlike the Fed. These actions helped boost the euro briefly above $1.40. However, immediately after the payrolls figure, the ECB President Jean-Paul Trichet, said in an interview in Brussels that the “euro is too strong today”, limiting the upside in EUR/USD. Moreover, data from the Eurozone is positive, showing recovery signals especially in Germany and France, which account for more than half of the overall European economy. However, Fitch Ratings downgraded Ireland to “A+” from “AA” and Moody’s has placed Ireland on negative outlook. Greek debt and deficit will be revised up for 2006-9. Finally, the IMF meetings this weekend present leaders with an opportunity to express their views on the global economic outlook and traders should beware of the headline risk involved.
Overall consensus: Bullish. Stricter ECB monetary policy and better data from the Eurozone are expected to boost the Euro.
Here’s an outlook fot the major events that await the Euro this week and an updated technical analysis for EUR/USD. In the euro area it will be a quiet week in terms of data, with the most interesting release being inflation and industrial production.


Monday, October 11
In the week ahead ISEE will show the French industrial production figure for August. After the increase of 0.9% last month, for the Europe’s second largest economy a drop is expected to occur this time with an overall consensus of 0.3%.
At the 2010 Mortimer Caplin Conference of the World Economy, the ECB President Trichet is due to speak about banking in central banks. The event is organised by the Miller Center of Public Affairs, University of Virginia, Washington DC. Volatility is often experienced during his speeches as traders attempt to decipher interest rate clues.

Tuesday, October 12
The ECB President will hold another speech. This time he will be at the Economic Club, in New York.

Wednesday, October 13
A measure of the health of the broader Euro-zone economy comes out this week when August Industrial Production (IP) data for the Euro-zone become available.  Although Germany and France already released their figures, the EU Industrial Production figure still tends to surprise and move the Euro. Last month’s light rise of 0.1% was a reflection of the previous month’s drop. A higher rise of 0.7% is expected this time.
Thursday, October 14

Following the rate decision with its optimistic sentiment, the European Central Bank is to publish its monthly bulletin, containing the data that the ECB Governing Board evaluated when making the latest monetary policy decision. The report also contains detailed analysis of current and future economic conditions from the bank’s viewpoint. This could boost the Euro.
Later in the day, Buba President Weber is due to deliver a speech titled “Fiscal Policy challenges from the Economic and Financial Crisis” at the event organized  by the Initiative New Social Market Lobby, in Berlin. Deutsche Bundesbank President and voting member of the ECB Governing Council Apr 2004 – Apr 2012, is believed to be one of the most influential members of the council. The speech is of particular interest in terms of future monetary policy.
Friday, October 15
Finishing of the week for the Eurozone is final inflation data for September. Prices were flat in July and August, but a slight increase is expected in September, though inflation remains on the rise on a year-over-year basis. This figure is considered the Eurozone’s most important inflation data because it is used as the central bank’s inflation target. However, it tends to have a relatively mild impact as the CPI Flash Estimate and German Prelim CPI are released about 15 days earlier. The annually adjusted rise of 1.8% for the overall CPI is expected to be confirmed, as well as the Core CPI – 1.0%.
The Technical View
The Euro has been tearing higher in very steep up channel; its progress has been halted for the time being at the 1.4020-1.4030 Resistance level. Above this area major resistance sits at 1.4193-1.4213. We expect a brief respite early next week with the 1.3635-1.3645 area providing key support the bulls need to maintain to keep the strength.
What’s Important?
A couple of speeches by Trichet could have an effect on the market in the week, important to look for Trichets sentiment about the strength in the euro. The CPI and Industrial production data is likely to have an impact in the week as the main news events. Technically the very steep bullish channel remains very much intact.

Key Words

Trichet, CPI, Industrial Production, 1.4020-1.4040 Resistance

Credits:http://www.pivotfarm.com/blog/2010/10/10/the-week-ahead-for-the-eur-october-11th-15th/
Read More>>
3

วิธีการเปิดบัญชี Exness

9Professionaltrader วันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2553
วิธีการเปิดบัญชี Exness
สำหรับ ใครที่เปิดบัญชี Exness ผ่านทางเว็บ 9professionaltrader.blogspot.com ให้ไปลงชื่อที่นี่นะครับ เพื่อขอรับค่าคอมมิชชั่น 50% http://thaiforexschool.com/index.php?topic=29.msg120;topicseen#msg120

Read More>>
2

Convergence Bearish

9Professionaltrader วันอังคารที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2553
สัญญาณคล้อยตามกัน หรือมีทิศทางเดียวกัน ระหว่างราคาและตัวชี้วัด
วันนี้เห็นกราฟอียู 30 นาที แสดงลักษณะของ Convergence
ราคา .. ราคาได้แสดงจุดสูงสุดใหม่ที่เกิดขึ้นต่ำกว่าจุดสูงสุดเก่าที่ราคาเคยทำ จากรูปที่ผมได้วงไว้ จะเห็นว่า H2 ต่ำกว่า H1 และ H3 ต่ำกว่า H2 ลักษณะเช่นนี้ คือ ลักษณะของการเกิดแนวโน้มขาลง (Down Trend)

Indicator : มาพิจารณาที่ตัวชี้วัดกันบ้างนะครับ เราจะเห็นว่าจุดสูงสุดใหม่ของ Indicator ก็จะต่ำกว่าจุดสูงสุดเก่าที่มันเคยทำไว้ และเมื่อเราลากเส้นเปรียบเทียบกันเราก็จะพบว่า Slop หรือความชันลาดลง นี่แสดงให้เห็นว่า Indicator กำลังบ่งบอกเราว่าจะเกิดแนวโน้มขาลงในไม่ช้า

เปรียบเทียบระหว่าง ราคาและ Indicator
-เมื่อราคาทำจุดสูงสุดใหม่ต่ำกว่าสุดสูงสุดเก่า และ Indicator ก็ทำจุดสูงสุดใหม่ ต่ำกว่าสุดสูงสุดเก่า ลักษณะแบบนี้เราเรียกว่า Convergence
Bearish

  • คอนเวอเจ้น(Convergence)คือสัญญาณคล้อยตามกันหรือมีทิศทางเดียวกันระหว่างราคาและ Indicator 
  • การดูสัญญาณ Convergence จะช่วยให้เราวิเคราะห์กราฟได้ง่ายขึ้น 
  • นอกจากจะดูสัญญาณ Convergence แล้ว เราต้องดู สัญญาณ Divergence ด้วย 
  • Divergence คือ สัญญาณขัดแย้งกัน หรือมีทิศทางที่ตรงกันข้ามกัน ระหว่าง ราคากับ Indicator 
  • สัญญาณ Convergence จะบ่งบอกการกลับตัวได้ดีกว่า สัญญาณ Divergence 
  • สัญญาณ Divergence ไม่ได้บ่งบอกว่า ราคาจะกลับตัว แต่จะบ่งบอกว่า สภาวะตลาด ณ ช่วงเวลานั้นเริ่มอ่อนแรงแล้ว และจะเกิดการพักตัว 
-สิ่งที่ผมเขียนทั้งหมดนี้ อาจจะไม่ตรงกับทฤษฎีที่ได้กำหนดไว้ แต่สิ่งที่ผมเขียนคือพฤติกรรมของกราฟ ณ ปัจจุบัน ลักษณะแบบนี้พบบ่อยมากในกราฟฟอเร็ก 

-เราไม่จำเป็นต้องตามทฤษฎีเป๊ะ ๆ แต่เราเอาวิธีการนั้นนำมาประยุกต์ใช้กับนิสัยการเทรดของเรา เพียงเท่านี้ เราก็จะสามารถประสบความสำเร็จจากตลาดฟอเร็กได้ครับ

Read More>>
3

บทที่ 1 การดูแนวโน้ม On Youtube By 9professionaltrader

9Professionaltrader วันจันทร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2553
สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว 9professionaltrader ผมได้ลองทำสื่อการสอนผ่าน Video เพื่อให้เพื่อนๆเข้าใจหลักการวิเคราะห์ทางเทคนิคมากขึ้น และใช้เป็นแนวทางในการศึกษาการวิเคราะห์ทางเทคนิค หวังว่าเพื่อนๆคงได้รับประโยชน์จากสื่อนี้นะครับ ซึ่งความรู้ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ผมได้ศึกษามาและได้มาเผยแพร่ อาจจะผิดบ้าง ขออภัยไว้ ณ ที่นี่ ด้วยนะครับ
เรื่องแรก เป็นเรื่องการวิเคราะห์แนวโน้ม เสียงอาจจะสั่นๆหน่อยนะครับ เพราะมันเป็นครั้งแรก ยังตะกุกตะกักอยู่ แต่จะปรับปรุงรูปแบบการสอนให้ดีขึ้นนะครับ ขอบคุณทุกคนครับ

บทที่ 1 การดูแนวโน้ม ตอนที่ 1


บทที่ 1 การวิเคราะห์แนวโน้ม ตอนที่ 2

 

บทที่ 1 การวิเคราะห์แนวโน้ม ตอนที่ 3


ดูจบแล้ว คอมเม้นกันเยอะๆนะครับ ผมจะได้แก้ไขข้อผิดพลาด ขอบคุณมากครับ...9prof
Read More>>
10

การเทรดโดยใช้ราคาเปิด(Open Price) เป็นราคาพื้นฐาน

9Professionaltrader วันศุกร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2553
การเทรดโดยใช้ราคาเปิด(Open Price) เป็นราคาพื้นฐาน

เมื่อคืนได้มีโอกาสนั่งอ่านที่ห้อง Thaiiland Chat ของโบรกเกอร์ Marketiva ก็ได้เห็นเพื่อนคนนึงกำลังสอนเรื่อง ราคาพื้นฐานหรือราคาเปิดของแต่ละวัน การเล่นโดยอาศัยราคาเปิด ให้กับเพื่อนๆในห้องแชท ผมก็เลยเข้าไปแจมด้วย และก็ได้อธิบายหลักการไปแบบคร่าวๆ และต้องมาเขียนบทความเพราะว่ามีเพื่อนๆถามมาทางอีเมล ต้องยกความเครดิตให้กับคุณ Masterfx_profits_th ที่ได้นำหลักการนี้มาเปิดประเด็น คุยกันหลายครั้งนะแต่ยังไม่รู้จักชื่อ ถ้าได้มาอ่านบทความนี้ ก็แนะนำตัวด้วยนะครับ

ผมเองก็ใช้หลักการนี้ในการเทรดเหมือนกัน เพราะบางครั้งเราดู Indicator แล้วอาจจะปวดหัว ก็เลยหันมาใช้ราคาเปิดเป็นราคาในการตัดสินใจเข้าเทรด หรือราคาพื้นฐานที่ใช้อ้างอิงในการเทรดของเรา

หลักการมีดังนี้ครับ

หาราคาเปิดของแต่ละวันก่อน

-โบรกเกอร์ Marketiva ให้ไปที่ตาราง forex แล้วเลือก Columns แล้วติ๊กที่ Open  เราก็จะได้ราคาเปิด
-โบรกเกอร์ทั่วไปที่ใช้โปรแกรมเทรด MT4 ให้คลิกขวาที่กราฟ แล้วเลือก Properties หรือกด F8 เลือก Common จากนั้นติ๊กที่ Show Period Separators เราก็จะเห็นเส้นปะ ซึ่งเป็นเส้นแบ่งวันนั้นๆ ดูที่จุดเริ่มต้นของวันนั้น
-ใช้ Indicator ตัวนี้ได้เลยครับ เพื่อบอกราคาเปิด Download ที่นี่

เมื่อหาราคาเปิดได้แล้ว ให้เราเอาราคาเปิดของแต่ละวันเป็นราคาพื้นฐานในการตัดสินใจของเรา คือ

-ถ้าราคาพื้นฐานอยู่ด้านบน เราจะใช้ราคาพื้นฐานเป็นแนวต้าน(Resistance)และมีกฎอยู่ 2 ข้อ คือ
 1.ถ้าราคาไม่สามารถทะลุราคาพื้นฐานได้ แล้วมีแท่งเทียนกลับตัว ให้เราเปิด Position Sell ได้เลย
 2.ถ้าราคาสามารถทะลุราคาพื้นฐานขึ้นไปได้ และราคาปิดของแท่งเทียนปัจจุบันสูงกว่าราคาพื้นฐานให้ เปิด Position Buy ได้เลย

-ถ้าราคาพื้นฐานอยู่ด้านล่าง ให้เราใช้ราคาพื้นฐานเป็นแนวรับ (Support)และมีกฎอยู่ 2 ข้อ เช่นกัน คือ
 1.ถ้าราคาไม่สามารถทะลุผ่านราคาพื้นฐานได้ แล้วมีแท่งเทียนกลับตัว ให้เราเปิด Position Buy ได้เลย
 2.ถ้าราคาสามารถทะลุผ่านราคาพื้นฐานลงมาได้ แล้วราคาปิดของแท่งเทียน ณ ปัจจุบันปิดต่ำกว่าราคาพื้นฐาน นั่นเป็นสัญญาณบอกเราว่า แนวโน้มนั้นกำลังจะลง ให้เราเปิด Position Sell ได้เลย

คำถาม: ผมคิดว่าต้องมีคำถามเกิดขึ้นในใจทุกคนแน่ว่า " แล้วแท่งเทียนกลับตัวดูยังไง"
ตอบ : ศึกษา รูปแบบของแท่งเทียน และ ดาวโหลดหนังสือที่ชื่อ Reading Price Chart Bar By Bar ไปอ่านกันได้เลยครับ


  • ให้เราใช้วิธีการนี้เทรดตามแนวโน้มเดิม ณ ช่วงเวลานั้น ถ้าแนวโน้มยังเป็นแนวโน้มลงอยู่ เราก็รอ Sell อย่างเดียว ถ้าแนวโน้มเดิมเป็นแนวโน้มขึ้นก็รอ Buy อย่างเดียว 
  • เราอาจจะตั้ง Buy Stop และ Sell Stop ไว้ห่างจากราคาพื้นฐานประมาณ 20 จุด แล้วปิดคอมนอนครับ  อย่าลืม Stop loss ด้วยนะครับ เด๋วโดนลากสองทาง 
  • เช้าๆตื่นมาก็มาหาราคาเปิด แล้วก็ลองใช้วิธีนี้เทรดนะครับ อาจจะรอนานหน่อย แต่ผมคิดว่าได้กำไรมากกว่าขาดทุนแน่นอนครับ 

ภาพตัวอย่าง


อย่าโลภนะครับ เก็บวันละ 20 จุด นี่ก็หรูแล้ว โชคดีทุกคนครับ ถ้าคิดอะไรออก เด๋วจะมาเขียนลงอีกครับ 
Read More>>
21

วิเคราะห์แนวโน้มของอียู(EUR/USD) ประจำวันที่ 4-9 ตุลาคม วันศุกร์ วันนี้มีข่าว Non-Farm Payroll

9Professionaltrader วันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2553
วิเคราะห์แนวโน้มของ EUR/USD
วันศุกร์
วันนี้มีข่าวนอนฟาม ดูวิธีการเทรดข่าว Non-Farm Payroll   และ ที่นี่ 
วิเคราะห์ทางเทคนิค ดูตามรูปเลยครับ


วันพฤหัสบดี
แนวโน้มของอียูวันนี้
แนวต้าน
-อยู่ที่ High และ เส้นเทรนไลน์สีแดง
แนวรับ 
-EMA 50 100 200
คำแนะนำ
-ถ้าอียูไม่ผ่านแนวต้านที่ High และเส้นเทรนไลน์ด้านบน ให้หาจังหวะ Sell กันได้เลย
 ข่าว
-วันนี้มีข่าวดอกเบี้ยของ EUR  ดูข่าวได้ที่ http://www.forexfactory.com


วันพุธ
แนวโน้มของอียูวันนี้
แนวต้าน
-อยู่ที่ High 1.3858 และที่ระดับ Fibonacci 138.2 % ที่ราคา1.3887
แนวรับ
-อยู่ที่ เส้น EMA 50 100 200 และระดับ Fibonacci 61.8-382%
-Support Trendline เส้นกลาง และเส้นล่าง
คำแนะนำ
-ถ้าราคาไม่สามารถผ่านแนวต้านได้ ให้รอสัญญาณกลับตัวจากแท่งเทียน แล้วเปิด Time Frame เล็กๆลงมา เพื่อหาจังหวะเข้า Short(sell) ครับ
-ถ้าราคาทะลุแนวต้านขึ้นไป สำหรับผมคือ No Trade แล้วรอจนกว่ามันจะขึ้นไปถึงแนวต้าน ค่อยตัดสินใจอีกที


วันอังคาร

update 11.00 น. มาดูผลของข่าว Cash rate อัตราดอกเบี้ยของ ออสเตรเลียกันครับ
นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 4.75 % แต่ผลที่ออกมาคือ ออสเตรเลียคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.5% เท่าเดิม กราฟจาก ไซด์เวย์อยู่ ก็พุ่งลงทันที
วิธีการเล่นข่าวแรงๆ ดูจากรูปเลยนะครับ เราจะตั้ง Pending Order ไว้ที่ จุดสูงสุดและจุดต่ำสุด ก่อนที่จะถึงช่วงเวลาที่ข่าวออก
Set Buy Stop ที่ HIGH
และ
Set Sell Stop ที่ Low
ดังรูปด้านล่างครับ เป็นวิธีเทรดข่าว ครับ


 แนวโน้มของอียู
แนวต้านอยู่ที่
-EMA 50
-Fibonacci 61.8-38.2% (0%=1.3805 100%=1.3644)
-Resistance Trendline ( ลากจุดแรกที่ 1.3805 มาเทียบกับ 1.3783 )
แนวรับ อยู่ที่
-Low เดิม EMA 100 , Fibonacci 100 % ที่ราคา 1.3644
-Fibonacci 138.2% (1.3582) และ fibonacci 161.8%(1.3544)
คำแนะนำ ถ้าราคาขึ้นไปแล้วไม่สามารถทะลุแนวต้านได้ มีแท่งเทียนกลับตัวลงมา ให้ Sell ลงมาแล้ว Target ไว้ที่ 1.3544



ข่าว จาก forexfactory

-วันนี้AUD เพิ่มอัตราดอกเบี้ย เป็น 4.75 %  AUD Cash Rate คาดการณ์ไว้ที่ 4.75 จากเดิม 4.5
-วันนี้ สกุลเงิน AUD วิ่งแรงแน่นอนครับ
กราฟ AUD/USD ปัจจุบัน

-ข่าว GBP Service PMI และ ข่าว USD ISM NON-Manufacturing PMI  ทั้งสองข่าวนี้ High Impact ทั้งนั้น

.............................................................................................................
วันจันทร์
Read More>>
4

การหาแนวรับและแนวต้านโดยใช้เครื่องมือต่างๆ

9Professionaltrader วันพุธที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2553
แนวรับและแนวต้านกราฟ week ของ EUR/USD โดยใช้เครื่องมือต่างๆ 
วันนี้วันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553
กราฟ EUR/USD weekly ณ เวลานี้


หาแนวต้านโดยใช้ Trendline 
ลาก Trendline จากจุดที่ 1 ที่ราคา 1.6037 ไปหาจุดที่ 2 ที่ราคา 1.5143 จะได้ Resistance Trendline ดังรูป


หาแนวต้านโดยใช้ Fibonacci Fan
ไปที่ Insert >>> Fibonacci >> Fan จากนั้นนำ Fan มาจิ้มที่จุดแรก 1.6037 และลากมาจุดที่ 2 ที่ราคา 1.1876 เราจะเห็นแนวต้านอยู่ที่ ระดับ 61.8% ดังรูป


หาแนวต้านโดยใช้ Fibonacci Retracement 
Fibonacci Retracement วัดหาแนวต้านได้หลายวิธี ดังนี้
วิธีที่ 1 ลากจาก High 1.6037 ถึง Low 1.1876  โดยเอา 0% ไว้ที่ 1.6037 และ 100 % ไว้ที่ 1.1876 (ในกรณีนี้วัดแนวโน้มขาลง) ดังรูปด้านล่าง


วิธีที่ 2 เปลี่ยนจากจุดแรกมาเป็น 1.5143 และจุดที่สองยังคงเป็น 1.1876 เหมือนเดิม จะได้แนวต้านดังรูป


วิธีที่ 3 เปลี่ยนจุดแรกเป็น 1.1876 และจุดที่ สอง เป็น 1.3317 โดย 0% อยู่ที่ 1.1876 และ 100% อยู่ที่ 1.3317 เราจะได้แนวต้านที่ระดับ Fibonacci ที่ 138.2 % ที่ราคา 1.3887 ดังรูปด้านล่าง


หาแนวต้านจาก Indicator ผมจะยกตัวอย่างการหาแนวต้านจาก RSI (Relative Strength Index) 
แนวต้านของ RSI จะเทียบกับจุดสูงสุดของยอดเก่า และระดับ 70 ของ RSI ดังรูป


เราจะเห็นว่าการหาแนวต้านทำได้หลายวิธีมาก ซึ่งแนวรับแนวต้านของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน เพราะวัดต่างกัน แต่ถ้าเข้าใจหลักการณ์เดียวกัน ก็จะได้ราคาเดียวกัน
วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับ วันหน้ามาต่อกันใหม่ เรื่องการหาแนวรับ
Read More>>
1

Guppy Mutiple Moving Average (GMMA)

9Professionaltrader วันอังคารที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2553
Guppy Multiple Moving Average หรือเรียกสั้นๆว่า GMMA 
GMMA หรือ บางคนเรียกเพียงแค่ Guppy กั๊บปี้ เป็นระบบ ที่นำเส้นค่าเฉลี่ยการเคลื่อนที่แบบ Exponential ( EMA) 12 เส้น โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ
1.Short term ( Trader) เทรดเดอร์ระยะสั้น
2.Long Term (Investor) นักลงทุนระยะยาว
โดย Short Term จะประกอบด้วย EMA 6 เส้นที่มี Period คือ EMA 5 , 7, 9, 11, 13, 15
และ Long Term จะประกอบด้าย EMA 6เส้นเช่นเดียวกันที่มี Period  คือ EMA 35 , 40 , 45, 50, 55, 60



วิธีการดูตามรูปด้านล่างและคำบรรยายด้านล่างเลยนะครับ


TACTICS 
  •  Join established trends at points of price weakness 
  •  Join established trends breaking to new highs
  •   Trade breakouts using rally dips and rebounds 
  •  Trade downtrend rallies as rallies rather than trend breaks 
  •   Recognise trend breaks as they develop 
RULES
  •   Degree and nature of separation in the long term group define trend strength and weakness 
  •  Degree and nature of separation in the short term group define the nature of trading activity. 
  •  Degree and nature of separation between the two groups of moving averages define the character of the trend.
  •  Compression shows agreement on price and value. 
  • Compression of both groups at the same time indicate major re-evaluation of stock and potential for a trend change 
  • Trade in the direction of the long term group of averages 
  • The relationships between the groups provide the necessary information about the nature and character of the trend. 
  • Do not use as a moving average crossover tool 

ADVANTAGES 
  • Enables effective analysis of the trend environment 
  • Improves selection of the appropriate trading tactics 
  • Better understanding of trend strength 
  • Effective evaluation of unusual price movements, such as dips and spikes
  • Effective understanding of trading activity and behaviour

DISADVANTAGES 
  • Not effectively applied to trend less stocks 
  • Cannot be applied to all trending stocks 
  • Do not use as a moving average crossover signal 

See how some FX traders are using the GMMA 

Guppy จะเหมาะกับ Trendfollower Trader เทรดเดอร์ที่เทรดตามเทรน เทรดตามแนวโน้มใหญ่ๆ ไม่เหมาะกับ Swing Trade หรือพวกที่เทรดสั้นๆ เราสามารถประยุกต์ใช้ Guppy ได้ทุกช่วงเวลา (Time Frame)

Credit : http://www.guppytraders.com/gup329.shtml  สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ และ Forum ของเทรดเดอร์ทั่วโลก  http://www.forexfactory.com

Read More>>
108

รูปแบบกราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart Patterns)

9Professionaltrader วันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2553
 รูปแบบกราฟแท่งเทียน (CandleStick Chart Pattern)

What 's Candle Stick Chart ? กราฟแท่งเทียนคืออะไร
กราฟแท่งเทียนเป็นกราฟที่แสดงราคาของหุ้นตัวนั้น ซึ่งจะแสดงราคาเปิด ( Open Price ) ราคาปิด(Close Price) ราคาสูงสุด ( High Price) และราคาต่ำสุด( Low Price ) โดยต้นกำเนิดของกราฟแท่งเทียนมาจากประเทศยี่ปุ่นโดยมีประวัติย้อนหลังยาวนานมาก โดยนาย Munehisa Homma เป็นผู้คิดค้นจากการวิเคราะห์จิตวิทยาของคนในการซื้อชายและกำหนดราคาข้าว และเขาได้เขียนหนังสือไว้สองเล่มคือ Sakata  Henso และ Soba No Den เมื่อประมาณ พ.ศ. ที่ผ่านมาประเทศกลุ่มตะวันตกทั้งหลายได้เห็นถึงประสิทธิภาพจึงได้นำมาประยุกต์ใช้กับตลาดหุ้น ตลาดซื้อขายล่วงหน้า ตลาดเงินตราระหว่างประเทศ โดยรูปแบบต่างๆของกราฟแท่งเทียนนั้นมีอยู่ด้วยกันมากกว่า 50ประเภท แต่เรานำมาประยุกต์ใช้กับตลาด ณ ปัจจุบันเพียงและเกิดขึ้นบ่อยๆ เพียงแค่บางส่วนเท่านั้น

รูปร่างทั่วไปของแท่งเทียน  General Of CandleStick Sharp
แท่งเทียนจะประกอบด้วย ราคาปิด ราคาเปิด ราคาต่ำสุด ราคาสูงสุด ซึ่งระยะระหว่างราคาปิดและราคาเปิดเราจะเรียกว่า ตัวแท่ง ( Body)  ใส้เทียนด้านบน คือ Upper Shadow และ ใส้เทียนด้านล่าง Lower Shadow
ลักษณะของแท่งเทียนมีอยู่ สาม แบบ คือ
1. แท่งเทียนขาขึ้น Bullish Candlestick  ลักษณะของแท่งเทียนขาขึ้นนี้ ราคาปิดจะอยู่สูงกว่าราคาเปิด
bullish candlestick แท่งเทียนขาขึ้น
2.แท่งเทียนขาลง Bearish Candlestick ลักษณะของแท่งเทียนขาลงคือ ราคาปิดจะต้องต่ำกว่าราคาเปิด
bearish candlestick แท่งเทียนขาลง

3.Doji โดจิคือ ราคาเปิดและราคาปิดของแท่งเป็นราคาเดียวกัน หรือ อยู่ใกล้เคียงกันมากๆ
doji ราคาปิดและราคาเปิดอยู่ตำแหน่งเดียวกัน

รูปแบบของแท่งเทียน (Candlestick Pattern ) มีด้วยกัน 3 รูปแบบคือ
1.รูปแบบของแท่งเทียนขาขึ้น (Bullish Candlestick Pattern)
2.รูปแบบของแท่งเทียนขาลง (Bearish Candlestick Pattern)
3.รูปแบบของแท่งเทียนแบบต่อเนื่อง (Continuous Candlestick Patern)


รูปแบบกราฟแท่งเทียนที่มักจะพบบ่อยที่สุด มีดังนี้

      โดยปกติแล้ว รูปแบบของแท่งเทียนมีเยอะมาก มากกว่า 50 รูปแบบ ถ้าจะให้เราจำหมด ก็คงไม่ไหว วันนี้ผมจึงเอาเฉพาะรูปแบบที่พบบ่อยบนกราฟของเรามาให้ดูกันครับ ว่าแต่ละตัวบอกถึงอะไร สื่อความหมายว่าอย่างไร การดูแท่งเทียนเป็นวิธีการที่ดีที่ใช้ในการวิเคราะห์หุ้น หรือ ฟอเร็กซ์ และเพื่อความแม่นยำให้กับการวิเคราะห์กราฟของเรา เราก็ควรจะใช้รูปแบบของกราฟแท่งเทียนร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ เช่น Indicator , Fibonacci , Trendline , Moving Average และ รูปแบบกราฟโดยทั่วไป เราสามารถประยุกต์กราฟแท่งเทียนเข้ากับเครื่องมือเหล่านี้ได้ 
     
    10 อันดับที่พบบ่อยของ รูปแบบกราฟแท่งเทียน


Dark Cloud Cover:  เป็นแท่งเทียนตามด้วยแท่งเทียนสีดำ ราคาเปิดของแท่งสีดำจะเปิดสูงกว่าราคาสูงสุดของแท่งสีขาวและราคาปิดของแท่งสีดำจะปิดต่ำกว่าจุดกึ่งกลางของแท่งสีดำ รูปแบบนี้เป็นสัญญาณการกลับทิศจากแนวโน้มขาขึ้นกลายเป็นแนวโน้มขาลง (Bearish Reversal Signal)
     แต่ถ้าราคาปิดของแท่งเทียนสีดำ ปิดสูงกว่าจุดกึ่งกลางของแท่งเทียนสีข่าว ให้เรารอสัญญาณยืนยันของแท่งเทียนสีดำอีกแท่ง ถ้าราคาปิดของแท่งเทียนอีกแท่งปิดต่ำกว่ากึ่งกลางของแท่งสีขาว ก็เป็นสัญญาณการกลับตัวเป็นตลาดขาลง






Doji:  เป็นกราฟแท่งเทียนที่มีราคาเปิดและราคาปิดอยู่ในราคาเดียวกัน หรือใกล้เคียงกันมากๆ เราก็ถือว่ากราฟแท่งเทียนนั้นเป็นโดจิ ลักษณะของมันจะคล้าย เครื่องหมาย บวก เครื่องหมาย ลบ กากบาท ซึ่งทั้งหมดนี้จะถูกเรียกว่า โดจิ 
ถ้าเกิด โดจิ ขึ้นกับกราฟของเรา นั่นคือสัญญาณบอกเราว่า ราคากำลังจะเปลี่ยนจากแนวโน้มเดิม โดยทั่วไปแล้ว เราจะดู โดจิเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูแท่งเทียนถัดมาอีกแท่งเพื่อเป็นสัญญาณยืนยันของแนว
โน้มนั้น




 Engulfing Pattern: ในสภาวะที่เป็นตลาดขาลงเราจะเป็นว่าแท่งสีดำ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเมื่อเปลี่ยนแท่ง ราคาจะกระโดดโดยที่ราคาเปิดของแท่งสีขาวจะอยู่ต่ำกว่าราคาปิดของแท่งสีดำ และมีแรงซื้อเข้ามาทำให้เราราปิดของแท่งสีขาวสูงกว่าราคาสูงสุดของแท่งสีดำ นี่คือ ตลาดกำลังจะกลับตัวจากแนวโน้มลงเป็นแนวโน้มขาขึ้น ลักษณะรูปแบบแท่งเทียนแบบนี้เรียกว่า Engulfing Bullish  
Engulfing Pattern จะประกอบด้วย 2 รูปแบบคือ Engulfing Bullish และ Engulfing Bearish 





Evening Star: โดยทั่วไปแล้วรูปแบบแท่งเทียนนี้จะเป็นการกลับตัวของกราฟจากแนวโน้มขาขึ้นกลายเป็นแนวโน้มขาลง โดบรูปแบบนี้จะประกอบด้วยแท่งเทียนสามแท่ง แท่งแรกเป็นแท่งเทียนสีขาวยาวๆ และตามด้วยแท่งเล็กๆ ที่เกิดการกระโดดขึ้นไปอยู่บนยอด (gap) และมีขนาดเล็กๆ ราคาปิดและราคาเปิดของแท่งเทียนที่สองจะอยู๋ใกล้เคียงกัน จากนั้นก็เกิดช่องว่าง(gap)เปลี่ยนเป็นแท่งที่สามเป็นแท่งสีดำยาวๆ นี่คือลักษณะของ Evening Star นอกจาก Evening Star แล้วก็ยังมี Morning Star โดยหลักการก็ตรงกันข้ามกับ Evening Star

Hammer: เมื่อตลาดอยู่ในสภาวะขาลงมีแท่งเทียนสีดำลงมาเรื่อยๆ จากนั้นราคาได้ดีดตัวขึ้นจากจุดต่ำสุด โดยลักษณะของแท่งเทียนจะเป็นแบบตะปู โดยที่มีราคาปิดจะปิดสูงกว่าราคาต่ำสุดลักษณะนี้เราจะเรียกว่า Hammer  
Hammer มักจะบอกเราอยู่เสมอว่า ราคากำลังจะเปลี่ยนจากแนวโน้มขาลงกลายเป็นแนวโน้มขาขึ้น Hanging Man:  รูปแบบของ Hanging man จะคล้ายกับ Hammer แต่จะเกิดกับแนวโน้มขาขึ้น ถ้าเกิด Hanging man กราฟมันกำลังบอกเราว่า แนวโน้มกำลังจะเปลี่ยนจากขาขึ้นกลายเป็นขาลง ให้รอสัญญาณยืนยันจากแท่งเทียนขาลงอีกแท่ง






Harami: รูปแบบนี้จะประกอบด้วยแท่งเทียนสองแท่งแท่งเทียนขาขึ้นสีขาวและแท่งเทียนสีดำ เมื่อมีแท่งเทียนปิดตัวลงได้เกิดแท่งเทียนสีดำเล็กขึ้น โดยแท่งเทียนสีดำอยู่ระหว่าง Body ของแท่งเทียนสีขาว แท่งเทียนแบบ Harami นี้จะบอกการกลับตัวจากแนวโน้มเดิม
Harami จะประกอบด้วย 2 รูปแบบคือ Bullish Harami และ Bearish Harami  ตัวอย่างด้านบนเป็น Bullish harami






Morning Star: รูปแบบของแท่งเทียนแบบ morning star จะดูกันแค่ 3 แท่ง รูปแบบนี้เอาไว้ดูการกลับตัวของกราฟจากขาลงเป็นขาขึ้น (Bullish Reversal candle pattern) จะประกอบแท่งเทียนสีดำยาวๆ ซึ่งเป็นแท่งเทียนขาลงและ ตามด้วยแท่งเทียนสั้นๆ ที่เกิด gab ด้วย เมื่อมีแท่งสั้นๆตรงกลางแล้ว ตามด้วย แท่งเทียนสีขาว 
แท่งเทียนสีขาวที่เกิดขึ้น ราคาปิดของแท่งเทียนสีขาวต้องปิดสูงกว่ากึ่งกลางของแท่งเทียนสีดำ





Piercing Pattern: เป็นแท่งเทียนสีดำ ตามด้วยแท่งเทียนสีขาวที่มีราคาเปิดต่ำกว่าราคาปิดของแท่งเทียนสีดำ แต่แท่งเทียนสีขาวสามารถทำราคาปิดสูงกว่ากึ่งกลางของแท่งเทียนสีดำ รูปแบบนี้เป็นรูปแบบการกลับตัวการกลับตัวของกราฟจากขาขึ้นเป็นกราฟขาลง และรูปแบบนี้เป็นรูปแบบที่ตรงข้ามกับ Dark Cloud Cover








Shooting Star: รูปแบบนี้จะตรงข้ามกับรูปแบบของ Hammer แท่งเทียนแท่งแรกเป็นแท่งเทียนขาขึ้น และตามด้วยแท่งเทียนที่มีราคาปิดและเปิดอยู่ใกล้ๆกับราคาต่ำสุด รูปแบบนี้จะบ่งบอกเราว่ากราฟกำลังจะเปลี่ยนแนวโน้มจากขาขึ้นมาเป็นแนวโน้มขาลง










ทริคในการเทรดโดยรูปแบบแท่งเทียน ของ 9professsionaltrader

เราสามารถดูแท่งเทียนเพียงอย่างเดียวในการเทรด ได้ แต่เพื่อความแม่นยำ ควรจะดูควบคู่ไปกับ Indicators หรือ เครื่องมืออื่นๆไปด้วย เช่น 
1.ผมจะดูรููปแบบของแท่งเทียนควบคู่ไปกับการดู Overbought Oversold  เมื่อ Indicators บอกเราว่า ราคาได้ Oversold แล้ว ก็จะมาดูที่ราคา แล้วรอจนกว่าราคาจะเกิดแท่งเทียนกลับตัวเป็นแท่งเทียนขาขึ้น หรือเป็นรูปแบบกราฟแท่งเทียนขาขึ้น (Bullish Candle Pattern) จากนั้นเราจึงตัดสินใจที่จะซื้อ (Buy) 
2.ดูรูปแบบแท่งของแท่งเทียนควบคู่ไปกับ Trendline  เมื่อราคาลงมาชนเส้นแนวโน้มขาขึ้น (Support Trendline or Uptrendline) พอมันลงมาชนแล้วเด้งขึ้น แล้วเราก็รอดูราคาปิดของแท่งเทียน ถ้าราคาปิดสูงกว่า กึ่งกลางของแท่งก่อนหน้านั้น แล้วเราจึงสินใจ Buy  (ในกรณีที่ราคาขึ้นไปชนแนวโน้มขาลง(Resistance Trendline)  ก็ทำตรงข้ามกัน)
3.ดูรูปแบบแท่งเทียนควบคู่กับ แนวรับแนวต้านจากราคาในอดีต และ Fibonacci เมื่อราคาแตะแนวรับแนวต้าน ให้เราสังเกตลักษณะแท่งเทียน ถ้าชนแนวเด้ง นั่นหมายความว่า ราคามีโอกาสกลับตัว แต่ถ้าชนแล้วผ่านฉลุย ปล่อยให้ราคามันวิ่งไป อย่าไปแตะมัน 

ใครมีข้อสงสัย หรือ อยากให้เพิ่มตรงไหน คอมเม้นด้านล่างได้เลยนะครับ 



Read More>>
InstaForex
 
Related Posts with Thumbnails